ใช้ชีวิตในโลกที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต
.
ผมไม...

ใช้ชีวิตในโลกที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต
.
ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยชีวิตตนเองจะได้มาลิ้มรสสัมผัสกับโลกที่ไร้อินเตอร์เน็ตแบบจริงจังเช่นตอนที่อยู่กลางทะเลครับ ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วอินเตอร์เน็ตจะมีให้ใช้ได้ แต่มันไม่ได้ใช้แบบทันท่วงที 5G เร็วติดจรวดแบบบนฝั่ง มันเป็นการใช้แบบแบ่งปันกับคนทุกคนที่นี่ บางช่วงอาจจะทันใจ แต่บางช่วงอาจจะทำได้แค่อ่านอีเมล์ หรือบางช่วงอาจจะทำอะไรไม่ได้เลย หรือที่สุดแล้วก็ไร้สัญญาณนั่นเอง ครั้งนี้ผมมีประสบการณ์จากครั้งแรกมาแล้วครับ เลยเตรียมตัวมาพอสมควรสำหรับการใช้ชีวิตในจังหวะที่สัญญาณอินเตอร์อาจจะหายไปยาวๆได้อีกครั้ง
แล้วเราควรจะทำอะไรกันดีระหว่างนี้
.
อ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือเป็นอะไรที่คลาสสิคมากครับ ตอนอยู่บนฝั่งผมก็อ่านได้ครับ แต่ยังอยู่ห่างไกลจากจุดที่เรียกว่าสมาธิมาก เพราะว่าเรามักจะโดนคนโทรถาม คนไลน์หา แทบจะตลอดเวลาตั้งแต่เช้าจนเช้าของอีกวัน จนกระทั่งมาอยู่แบบนี้ผมจึงรู้ว่าโลกแห่งการอ่านหนังสือสมัยเมื่อตอนเรียนอยู่มัธยมเป็นอย่างไร แบบว่าอ่านได้ยาวๆ ไปจนครึ่งเล่มได้แบบเพลินๆโดยที่ไม่ต้องมากังวลว่าใครจะไลน์มา และคนที่จะไลน์มาเขาก็รู้ว่าไลน์มาอาจจะไม่ได้คำตอบเพราะว่าตัวผมอาจจะไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะตอบได้ทันที เลยกลายเป็นความสงบสุขในชีวิตได้แบบสั้นๆ
เขาบอกว่าถ้าอ่านหนังสืออย่าอ่านบน ipad เพราะสมาธิเราจะเสียจากบรรดาไลน์ต่างๆ แต่พอมาอยู่แบบไร้สัญญาณ การอ่านจาก ipad ไม่ได้แย่นะครับจริงๆแล้ว อ่านได้เพลินมาก การไฮไลท์ต่างๆจด note ก็ทำได้สะดวก และที่สำคัญคือเราสามารถพกหนังสือมาหลายๆเล่มได้โดยที่ไม่เปลืองพื้นที่กระเป๋าเราเลยแม้แต่นิดเดียว
.
เรียนคอร์สออนไลน์ต่างๆในแบบออฟไลน์
ปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์จำนวนมากที่เปิดสอน แต่ส่วนใหญ่มักจะดาวน์โหลดเก็บไว้ไม่ได้ แต่มีของ Udemy ครับ ที่มีคลังข้อมูลคอร์สออนไลน์ขนาดใหญ่มากๆ และเราโหลดเก็บลง ipad ได้ และที่สำคัญคือราคาเรียนต่อคอร์สนั้นน่าสนใจมาก รอจังหวะดีๆ คอร์สราคาราวๆ 300-400 บาท มีให้จับจองได้แทบทุกสาขาวิชาครับ
.
ออกกำลังกาย
การใช้ชีวิต offshore การออกกำลังกายเป็นอะไรที่ผมชอบที่สุด เพราะเราจะได้ใช้เวลาไปราวๆ 1-2 ชั่วโมง อยากจะ cardio ก่อนแล้วต่อด้วย resistance training ก็ทำได้อย่างสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางครับ เพราะระหว่างห้องพัก ห้องทำงาน กับ ยิม เดินอย่างมากก็ 5 นาทีครับ ไม่มีเรื่องลมฟ้าอากาศมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจไม่ออกจากบ้านได้อีก และอย่างที่สำคัญคือ ในโลกที่ไม่มีเน็ต การใช้เวลาไปกับการออกกำลังกายถือว่าเป็นหนึ่งในเวลาคุณภาพของวันในความคิดผมเลยก็ว่าได้นะ
.
กินอาหาร
จริงๆการกินอาหารเป็นเรื่องปกติของคนบนฝั่งและคนนอกฝั่ง แต่จุดหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างมากคือ การกินอาหารของคน offshore เป็นอะไรที่มีความเป็น routine สูงมาก เพราะตารางการกินค่อนข้างจะแน่นอน เป็นเวลา และรู้แน่ชัดว่าจะได้กินอะไร จริงๆผมอยากเล่าเรื่องอาหารการกินอีกพอสมควร ผมอยากใช้คำว่า conscious eating ครับ คือแบบทีเรียกว่า กินแบบมีสติ ผมคิดว่าช่วงเวลาที่อยู่ตอนนี้เป็นช่วงที่เราสามารถปรับพฤติกรรมการกินอาหารของเราได้ค่อนข้างง่าย เพราะตัวเลือกไม่เยอะ และอาหารพวกของหวานก็หากินได้ยาก ถ้าใครอยากจะลดน้ำหนักผมว่ามาอยู่ offshore นี่น่าจะดีนะครับ 555 ที่สำคัญคือไม่ค่อยมีคนพาเราทำ cheat day บ่อยๆเช่น เพื่อนสนิท หรือ แฟนที่มีอิทธิพลกับเราเวลาอยู่บนฝั่ง ถ้าอยากจะทำ IF ตอนนี้ ก็ทำได้แบบง่ายมากๆ ก็แค่ไม่กินมื้อเช้า แล้วก็ไปกินรวบยอดทีเดียวตอนเที่ยงถึงเย็น แล้วน้ำหนักจะไม่ลงได้อย่างไรครับ
.
สังคม
เรื่องนี้ผมชอบมากเลยนะครับ เพราะเมื่อคนเรามาอยู่ในจุดที่ไม่ได้ก้มหน้าลงมาที่หน้าจอเหมือนกัน ทุกคนก็จะละสายตาจากหน้าจอพร้อมกันทั้งหมด และหันซ้าย หัวขวา สุดท้ายหันหน้ามาเจอกัน ก็เลยกลายเป็นสังคมซุบซิบที่นั่งคุยกันได้อย่างอรรถรสอีกครั้งเลยครับ
.
วันนี้อ่าวไทยตรงนี้ อากาศดีมากครับ

---